
ผลงานสุดเซอร์ไพรส์! ศึกยูโร 2020 เริ่มเดินทางเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายกันแล้ว หลังมีบางกลุ่มลงเล่นครบ 3 นัดไปเรียบร้อย ขณะที่อีกหลายกลุ่มกำลังเริ่มเล่นนัดสุดท้าย และก็ได้โฉมหน้าทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแล้วบ้าง
แม้ว่าในรอบแบ่งกลุ่มจะยังไม่จบลงซะทีเดียว แต่ตลอดหลายๆเกมที่ผ่านมาเราได้เห็นฟอร์มของบรรดาแข้งในแต่ละชาติที่ทำผลงานได้สะดุดตาทั้งที่ไม่ได้เป็นสตาร์ดังที่ได้รับการจับตามองก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าบรรดาแข้งเหล่านี้จะกลายเป็นแข้งที่มีหลายทีมยักษ์ใหญ่ให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นหลังจากศึกยูโรปิดฉากลงไป และนี่คือ 5 แข้งที่โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นและส่อแววจะกลายเป็นแข้งเนื้อหอมในช่วงซัมเมอร์นี้
5.โรบิน โกเซนส์ (เยอรมัน)
ชื่อของ โกเซนส์ แทบไม่อยู่ในสายตาของแฟนบอลหลายๆคนเลยที่จะสามารถแจ้งเกิดได้ในรายการนี้ด้วยซ้ำ แต่จากฟอร์มอันร้อนแรงในเกมช่วย เยอรมัน เอาชนะ โปรตุเกส 4-2 เขาได้แสดงศักยภาพเป็นที่ประจักษ์ต่อแฟนบอลแล้วว่าเขาคือของจริงด้วยการเผาเกมรับทัพ “ฝอยทอง” จนแหลกเป็นชิ้นๆ ก่อนจะจบด้วยการทำประตูปิดท้าย
สำหรับเส้นทางอาชีพของแบ็กซ้ายจอมบุกรายนี้แทบไม่เคยได้ลงเล่นให้กับทีมระดับท็อปของยุโรปเลยโดยโลดแล่นอย่บนลีกของฮอลแลนด์อยู่หลายปี ก่อนจะมาเริ่มสร้างชื่อได้กับ อตาลันต้า ในปี 2017 นี่เอง โดยพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนฟอร์มไปเตะตา โยอาคิม เลิฟ จนถูกเรียกตัวติดทีมชาติเยอรมันครั้งแรกในปี 2020
จนกระทั่งศึกยูโรครั้งนี้ดาวเตะวัย 26 ปีได้กลายเป็นหนึ่งในขุนพลเอกของทีมไปเรียบร้อย ซึ่งหากเขายังรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอเชื่อว่าช่วงซัมเมอร์นี้เจ้าตัวอาจได้ย้ายไปเล่นให้ทีมใหญ่กว่านี้แน่นอน
4.เดนเซล ดุมฟรีส์ (เนเธอร์แลนด์)
แบ็กขวาจอมบุกจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เคยเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามอง และดูเหมือนว่าศึกยูโรครั้งนี้จะกลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของเจ้าตัวแบบเต็มๆ หลังเวลานี้เขาทำไปแล้วถึง 2 ประตูทั้งเกมที่เอาชนะ ยูเครน 3-2 และ ออสเตรีย 2-0 ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัลแมนด์ ออฟ เดอะ แมตช์ ไปทั้งสองเกม
แน่นอนจากฟอร์มดังกล่าวทำให้ตอนนี้ดาวเตะวัย 25 ปี ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับหลายทีมทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ บาเยิร์น มิวนิค ที่จะกระชากตัวไปร่วมทีม โดยเจ้าตัวมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 13 ล้านปอนด์ (ประมาณ 520 ล้านบาท) ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมอย่างยิ่งเนื่องจากเจ้าตัวยังมีอายุการใช้งานอีกยาวไกล
3.พาทริค ชิค (เช็ก)
หากจะพูดถึงหนึ่งในกองหน้าที่ฟอร์มแรงที่สุดในยูโรหลังจากผ่านสองนัดแรกชื่อของ ชิค ต้องเป็นหนึ่งในนั้น หลังกระหน่ำไปแล้วถึง 3 ประตูจากสองเกมนำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์จาก โปรตุเกส
ดาวเตะจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สร้างความฮือฮาให้แก่คอลูกหนังได้ตั้งแต่ลงเล่นนัดแรกด้วยการตะบันสองประตูใส่ สกอตแลนด์ โดยเฉพาะลูกยิงครึ่งสนามด้วยระยะทางถึง 49.7 หลา ที่สามารถลุ้นประตูยอดเยี่ยมประจำทัวนาร์เมนต์ได้เลย
แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาผลงานของดาวเตะวัย 25 ปี ในการเล่นให้สโมสรจะไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก แต่เชื่อว่าหากเขายังรักษาฟอร์มเก่งได้ต่อเนื่องหลายๆทีมระดับท็อปในยุโรปก็พร้อมจะแย่งชิงด้วยเขาไปร่วมทีมเช่นกัน
2.คาลวิน ฟิลลิปส์ (อังกฤษ)
แม้ว่าผลงานของทัพ “สิงโตคำราม” ในยูโรหนนี้จะไม่ได้หวือหวามากเท่าที่ควร และยังต้องลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไป แต่หากดูจากผลงานส่วนตัวของเขาแล้วถือว่าทำได้ดีเกินคาดกับการลงรับใช้ชาติได้เพียงไม่กี่เกมเท่านั้น
มิดฟิลด์จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นแข้งที่มีสไตล์การเล่นแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ที่วิ่งพล่านไปทั่วทั้งสนาม มีส่วนสำคัญทั้งเกมรุกและรับ ซึ่งบทบาทนี้แตกต่างไปจากตอนที่เขาเล่นให้กับทัพ “ยูงทอง”
เชื่อว่าหลังจบศึกยูโรครั้งนี้ไม่ว่าผลงานของ อังกฤษ จะเป็นอย่างไร แต่ชื่อของดาวเตะวัย 25 ปีจะกลายเป็นที่ต้องการของทีมชั้นนำมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังเขาเคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล มาแล้ว
1.มานูเอล โลคาเตลลี่ (อิตาลี)
ปฏิเสธไม่ได้ว่าศึกยูโรหนนี้ อิตาลี กลายเป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุด ด้วยการคว้าชัย 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเก็บคลีนชีตได้อีกด้วย และถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ไปเรียบร้อย
สำหรับแข้งในทีมชุดนี้หนึ่งในแข้งที่โชว์ฟอร์มเซอร์ไพรส์มากที่สุดต้องยกให้กับ โลคาเตลลี่ หลังจากเจ้าตัวโชว์ฟอร์มโดดเด่นจากการซัดไปแล้ว 2 ประตูทั้งที่เป็นนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ
เวลานี้เขากำลังตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ ยูเวนตุส และ อาร์เซน่อล ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะได้เห็นเขาได้ไปเล่นให้กับทีมระดับท็อปอีกครั้ง หลังไม่สามารถแจ้งเกิดได้สมัยอยู่กับ เอซี มิลาน ในระหว่างปี 2016-19